วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สัทอักษรสากล


สัทอักษรสากล 
             International Phonetic Alphabet: IPA คือ สัทอักษรชุดหนึ่งที่พัฒนาโดยสมาคมสัทศาสตร์สากล โดยมุ่งหมายให้เป็นสัญกรณ์มาตรฐานสำหรับการแทนเสียงพูดในทุกภาษา นักภาษาศาสตร์ใช้สัทอักษรสากลเพื่อแทนหน่วยเสียงต่าง ๆ ที่อวัยวะออกเสียงของมนุษย์สามารถเปล่งเสียงได้ โดยแทนหน่วยเสียงแต่ละหน่วยเสียงด้วยสัญลักษณ์เฉพาะที่ไม่ซ้ำกัน สัญลักษณ์ในสัทอักษรสากลนั้นส่วนใหญ่นำมาจากหรือดัดแปลงจากอักษรโรมันสัญลักษณ์บางตัวนำมาจากอักษรกรีก และบางตัวประดิษฐ์ขึ้นใหม่โดยไม่สัมพันธ์กับอักษรภาษาใดเลย สำหรับ ตารางสัทอักษรในภาษาไทย ดูได้ที่ ภาษาไทย

File:IPA chart 2005.png


     ในชุดสัทอักษรสากล ส่วนใหญ่ของสัญลักษณ์แทนหน่วยเสียงพยัญชนะที่มีรูปร่างเหมือนกับพยัญชนะในอักษรละตินนั้น จะมีค่าของเสียง (sound-value) สัมพันธ์กับเสียงของพยัญชนะเดียวกันในภาษายุโรปส่วนใหญ่ รวมทั้งภาษาอังกฤษด้วย สัญลักษณ์ในประเภทนี้ประกอบด้วย [p], [b], [t], [d], [k], [g], [m], [n], [f], [v], [s], [h], [z], [l], [w]

                สัญลักษณ์แทนหน่วยเสียงสระที่มีรูปร่างเหมือนกับสระในอักษรละติน ซึ่งได้แก่ [a], [e], [i], [o], [u] จะมีค่าของเสียงสัมพันธ์กับสระเดียวกันในภาษาเยอรมัน สเปน หรืออิตาลี โดยประมาณ หรืออาจเทียบกับเสียงสระในภาษาไทยได้เป็น อะ, เอะ, อิ, โอะ และ อุ ตามลำดับ


              สัญลักษณ์อื่น ๆ ที่เหลือในส่วนที่นำมาจากอักษรละตินนั้น เช่น [j], [r], [c] และ [y] จะสัมพันธ์กับเสียงของตัวอักษรเดียวกันในภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เช่น [j] มีค่าของเสียงเหมือนกับ j ในภาษาเยอรมัน สแกนดิเนเวีย หรือดัตช์ หรืออาจเทียบได้กับเสียง ย ในภาษาไทย เป็นต้น ข้อสำคัญของหลักเกณฑ์การกำหนดใช้สัทอักษรสากลคือ ใช้สัญลักษณ์เพียงตัวเดียวสำหรับหน่วยเสียงแต่ละหน่วย โดยหลีกเลี่ยงการประสมอักษรอย่างเช่น sh และ th ในการเขียนภาษาอังกฤษ


วงเล็บเหลี่ยมและทับ

          การอธิบายถึงสัทอักษรสากล ใช้เครื่องหมายปิดหน้าหลังสองรูปแบบได้แก่
  • [วงเล็บเหลี่ยม] ใช้สำหรับแสดงรายละเอียดการออกเสียงเชิงสัทศาสตร์ และอาจรวมถึงรายละเอียดที่อาจไม่สามารถใช้จำแนกคำในภาษาที่กำลังทับศัพท์ ซึ่งผู้เขียนก็ยังคงต้องการแสดงรายละเอียดเช่นนั้น
  • /ทับ/ ใช้สำหรับกำกับหน่วยเสียง ซึ่งแตกต่างกันเป็นเอกเทศในภาษานั้น โดยไม่มีรายละเอียดที่ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ
          ตัวอย่างเช่น หน่วยเสียง /p/ ในคำว่า pin และ spin ของภาษาอังกฤษ โดยแท้จริงออกเสียงแตกต่างกันเล็กน้อย ความแตกต่างนี้ไม่มีนัยสำคัญในภาษาอังกฤษ (แต่ก็อาจมีนัยสำคัญในภาษาอื่น) ดังนั้นการอธิบายการออกเสียงเชิงหน่วยเสียงจึงเป็น /pɪn/ และ /spɪn/ ซึ่งแสดงด้วยหน่วยเสียง /p/เหมือนกัน อย่างไรก็ดี เพื่อให้เห็นความแตกต่างดังกล่าว (เสียงแปรต่าง ๆ ของ /p/) สามารถอธิบายเชิงสัทศาสตร์ได้เป็น [pʰɪn] และ [spɪn]


แหล่งที่มา  : สัทอักษรสากล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น